เปลี่ยนชุดตระเตรียมของพร้อมกันที่รถ พี่ต๊ะพานั่งรถฝ่าอากาศหนาวๆ หมอกจางๆ ฝุ่นอย่างเยอะ! ไปที่ทางขึ้นเขา แสงอาทิตย์ยังไม่ทันจะโผล่พ้นขอบฟ้าพี่ก็พาพวกเราเดินมุ่งหน้าสู่ยอดเขา
![]() |
ทางขึ้นช่วงประมาณ 600 เมตร |
จะบอกว่าทางเริ่มลาดตั้งแต่ขึ้นเลยครับ ผ่านมาได้ซัก 200 เมตรก็เริ่มชันหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่นี่มีเชือกให้พอช่วยพยุงตัวได้บ้าง แต่ก็อย่าใช้เชือกเยอะไปนะครับมือเย็นๆเอาไปรูดกับเชือกมันเจ็บมาก ระยะทางขึ้นยอดเขาเทวดาประมาณ 800 เมตรพวกเราใช้เวลาเดินกันชั่วโมงกว่าๆ เอาเป็นว่าทันพระอาทิตย์ขึ้นเป็นพอ
บนยอดดอยมีพื้นที่ไม่มากครับ คนประมาณ 30 คนทำให้ยอดดอยเต็มได้ ผมก็ไม่รีบนั่งละเลียดโอวัลตินคลายหนาวรอให้คนได้ถ่ายรูปกับพระอาทิตย์เสร็จเสียก่อน ค่อยไปถ่ายรูปของเรา
![]() |
สูงที่สุดในแผ่นดินสุพรรณฯ |
จากจุดที่สูงที่สุดในสุพรรณฯนี้เราจะมองเห็น 3 จังหวัดคือทางซ้ายเป็นกาญจนบุรี ทางขวาเป็นอุทัยธานี และจุดที่ยืนคือสุพรรณบุรี
เทือกเขาที่เด่นชัดและสวยซะมากๆ คือเทือกเขาตะนาวศรี จังหวัดกาญจนบุรีนั่นเอง
![]() |
pano เทือกเขาตะนาวศรี |
![]() |
เทือกเขาตะนาวศรี จ.กาญจนบุรี |
9 โมงเช้า เหลือกลุ่มเราที่ยังเสพธรรมชาติกันเป็นกลุ่มสุดท้าย เก็บข้าวของย้ายสัมมะโนครัวลงด้านล่างกัน ตอนลงนี่ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตอนขึ้นรองเท้าที่ใส่มีส่วนมาก ปลายนิ้วโป้งกับนิ้วก้อยผมเจ็บปวดอย่าบอกใคร ลงมาที่รถก็พบกับวิวข้าวไร่อันน่าหลงไหล
![]() |
ทุ่งข้าวไร่ |
คนที่นี่ไม่มีเนื้อไก่ หมู วัว กินถ้าจะกินต้องลงไปซื้อที่ตลาด พี่ต๊ะเล่าว่าเมื่อก่อนชาวบ้านเลี้ยงวัว แต่ก็ถูกเสือลากไปกิน ก็เลยเลิกเลี้ยง
10โมงเช้า เราถึงที่พักแล้ว รีบควานหาอาหารเช้ามาประทัง (คือหิวมาก) หลังจากที่ซัดโฮกกับอาหารทั้งหมด เรียกว่าทุบหม้อข้าวหม้อแกงกันเลยทีเดียว 555 ก็จัดแจงเก็บเต๊นท์ เตรียมตัวเดินทางลงดอยกัน
![]() |
บรรยากาศที่กางเต๊นท์ |
บ่ายเท่าไหร่ไม่รู้ พวกเราก็เดินทางกลับมาที่รถกระบะ ให้พี่ต๊ะพาเรามาส่งอุทยานฯ ระหว่างรู้สึกว่าแปบเดียวและมีเสียงเคาะกระจกตลอดเวลา ไม่ใช่อะไรหรอกครับ หลับหัวโขกกระจกนั่นเอง ทุกคนดูเหมือนจะหมดแรงไปกับทริปนี้
หลังจากถึงอุทยานเราก็จัดแจงย้ายของกลับเข้ารถเรา อาบน้ำอีกซักครั้ง และเดินทางกลับกรุงเทพฯ
จบ...