ก่อนถึงสุโขทัยเราพยายามโทรไปถามที่พักแถวอุทยานฯ ทุกที่ตอบเหมือนกันคือ เต็ม!
...ขับรถเข้าอุทยานฯก่อนที่งานจะเริ่มเพราะจะมีการปิดถนนผ่านที่ไหนก็ยกโทรศัพท์กดไปถาม ก็ได้คำตอบเหมือนกันคือ เต็ม!
...เราขับรถถามจะเริ่มถอดใจ ตั้งใจไว้ว่าจะเที่ยวงานลอยกระทงเสร็จก็จะตีรถกลับกรุงเทพทันที ขับรถเข้าจุดฝากรถจ่ายตังค์ไป 80 บาท เดินคอละห้อยเข้างาน
...ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เดินเข้าไปถามไถ่ที่พักที่เพิ่งโดนปฎิเสธไป (ที่พักชื่อ old city อยู่ตรงข้ามสถานที่จัดงาน) เดินเข้าไปถามแบบไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เฮียแกก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยอยากให้เราพักซักเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ได้ที่พักมา 1 ห้องในราคาที่สูงกว่าปกติซักหน่อยคือ 600 บาท เหตุผลที่แกไม่อยากให้พักชักโครกห้องเราชำรุด ตอนนั้นดีใจแบบสุดๆ ไม่ต้องขับรถเข้ากรุงเทพตอนดึกแล้ว เย่
เย็นถึงดึก เราเดินเที่ยวงานกันจนเกือบเที่ยงคืน มันไม่หนาวอย่างที่คิดไว้ ยุงจัดว่าเยอะมาก แต่งานจัดได้ดีมาก เดินกันจนพอใจแล้วก็เดินกลับที่พักกัน ก่อนกลับหิวแวะกินก๋วยเตี๋ยวพระร่วงซักนิดนึง (ที่น่านเรียกข้าวปั๊บ) อร่อยมาก
สาย ของอีกวันนึงก่อนกลับเช่ารถถีบขี่ชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยกันซักรอบ ขี่ไปก็คุยกันว่าสมัยก่อนที่นี่คงเจริญน่าดู มีวัดติดๆกันขนาดนี้ มาที่นี่จินตนาการบรรเจิดดีจริงๆ
เที่ยง แล้วเราเก็บกระเป๋าเข้ากรุงเทพกันดีกว่า แต่ก่อนกลับรู้สึกว่าเวลาจะเหลือนิดๆก็เลยชวนกันหาที่แวะแบบประหยัดเวลา ตัดสินใจขับรถเข้าทางอุทยานฯรามคำแหง ขับไปเรื่อยๆ เจอทางชี้ไปน้ำตกลำเกลียวและน้ำตกสายรุ้ง เราเลือกน้ำตกลำเกลียวแบบไม่คิดไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
...น้ำตกลำเกลียวเป็นน้ำตกเล็กๆ อยากจะให้เรียกว่าลำธารลำเกลียวจะดีกว่า เพราะเดินไปครึ่งชม.ยังไม่เจอน้ำตกซักชั้นนึงเลย แต่ที่นี่ได้เปรียบตรงที่คนน้อย ลำธารจึงสะอาดเราก็นั่งเล่นน้ำกันเรื่อยๆ จนพอใจจึงกลับ
บ่าย ก่อนกลับกรุงเทพเราแวะร้านขนมจีนบ้านนาตามอย่างปีที่แล้ว และเดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น